4 เคล็ดลับทาสีบ้านช่วงหน้าฝน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
4 เคล็ดลับทาสีบ้านช่วงหน้าฝน ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
ควรเลือกช่วงเดือนไหนดี ?
ช่วงเดือน พฤศจิกายน – เมษายน ของทุกปี เป็นช่วงฤดูหนาว และฤดูร้อน สภาพอากาศในฤดูนี้ จะมีความชื้นต่ำ อากาศร้อน ทำให้สีทาบ้านแห้งได้ ในระยะเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่ควรทาสีในวันที่มีลมแรง เพราะฝุ่นผงอาจพัดเข้ามาในขณะทา ทำให้ผนังเปรอะเปื้อนได้
ขณะที่ทาสีบ้าน แล้วเกิดฝนตก ควรหยุดงานและเลื่อนวันทาสีออกไปทันที เพราะเนื่องจากสภาพอากาศในวันฝนตกจะทำให้พื้นผิวมีความชื้น เมื่อทาสีบ้าน สีจะแห้งช้า ส่งผลให้สีโป่งพอง หลุดล่อน รวมถึงเกิดเชื้อราตามมา
วิธีรับมือเมื่อต้องทาสีบ้านหน้าฝน
1.เช็คสภาพอากาศให้ชัวร์
ก่อนจะลงมือทาสีทุกครั้ง ควรเช็คสภาพอากาศให้แน่ชัด โดยอาจเช็คจากการพยากรณ์อากาศในแต่ละวัน ว่าในวันที่เราต้องการลงมือทำช่วง ฝนตกในพื้นที่ปริมาณเท่าไร และจะตกในช่วงเวลาใด หากมีปริมาณฝนมาก หรือมีพายุ ควรเลื่อนกำหนดการออกไปก่อนจะดีที่สุด
2.เช็คสภาพพื้นผิวของผนังบ้าน
ควรเช็คสภาพพื้นผิวก่อนว่า มีความชื้นสะสมอยู่ในพื้นผิวหรือไม่ เพราะถึงแม้ว่าวันที่เราทา ฝนจะไม่ตก แต่ก่อนหน้านี้ฝนตก ก็อาจทำให้ผนังพื้นผิวมีความชื้นสะสมอยู่ หากทับไป จะทำให้สีโป่งพอง หลุดล่อน และเกิดเชื้อราในเนื้อสีได้นั่นเองครับ
ทาสีบ้าน
3.คำนวณระยะเวลาแห้งสี กับ สภาพอากาศ
เมื่อเช็คสภาพพื้นผิวแล้ว ก่อนลงมือทาสีจริง ต้องคำนวณระยะเวลาแห้งกับสภาพอากาศให้แน่ใจอีกครั้ง เพราะสีแต่ละประเภท
มีระยะเวลาแห้งผิวที่แตกต่างกัน แต่เพื่อความชัวร์ แนะนำให้ทิ้งไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมงจะดีที่สุดครับ รับรองติดแน่น ทนนานครับ
4.เลือกสีทาบ้านที่มีคุณภาพ แห้งไว ป้องกันเชื้อรา ติดแน่นทนนาน
การเลือกสีทาบ้าน ก็มีส่วนช่วยทาสีช่วงหน้าฝนง่ายขึ้น เราจึงควรเลือกสีทาบ้านยี่ห้อที่คุณภาพดี เกรดสูง มาพร้อมคุณสมบัติที่แห้งไว ช่วยลดระยะเวลาการแห้งให้เหลือเพียง 2-3 ชม. ช่วยกันเชื้อรา กันความชื้น และฟิล์มสียึดเกาะติดแน่นทนนาน
ที่สำคัญ ควรเลือกสีทาบ้านให้ความคุ้มค่า คุ้มราคา ตอบโจทย์กับบ้านในยุคนี้
