ความต่างของไม้เนื้อแข็งและเนื้ออ่อน ข้อควรรู้ก่อนเริ่มงานซ่อมแซม

ความต่างของไม้เนื้อแข็งและเนื้ออ่อน ข้อควรรู้ก่อนเริ่มงานซ่อมแซม

ความต่างของไม้เนื้อแข็งและเนื้ออ่อน ข้อควรรู้ก่อนเริ่มงานซ่อมแซม

ไม้นั้นถือว่าเป็นวัสดุก่อสร้างอย่างหนึ่งที่สำคัญ สำหรับไม้นั้นมีทั้งเนื้อไม้แข็งกับเนื้อไม้อ่อน ซึ่งก่อนที่จะทำงานซ่อมแซมหรืองานที่ต้องใช้ไม้นั้นเราควรเรียนรู้ ข้อแตกต่างระหว่างไม้ทั้งสองชนิดก่อนว่ามีความแตกต่างกันมากน้อยอย่างไร

1.พื้นไม้สกปรกเพราะฝุ่น
แน่นอนว่าฝุ่น ผง ทำให้พื้นห้องสกปรก และทิ้งไว้นาน ก็กลายเป็นคราบที่ขจัดออกไปได้ยาก ทำให้ดูเหมือนพื้นเสีย แต่จริง ๆ แล้ว แค่ขัดพื้นเสียใหม่ ก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้แล้ว ไม่ถึงกับต้องเปลี่ยนพื้น

2.การทำความสะอาดพื้นแบบล้ำลึกทำได้ง่ายกว่าที่คิด
การทำความสะอาดแบบล้ำลึกนั้น สามารถทำได้โดยเริ่มจากการใช้ไม้กวาดกวาดพื้น เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกบนผิวเนื้อไม้ออกไปก่อน ตามด้วยการดูดฝุ่นเพื่อขจัดคราบสกปรกที่เกาะติดแน่น และฝุ่นตามมุมห้องออก จากนั้นก็ให้ใช้ไม้ถูพื้น เลือกผ้าไมโคร ที่มีความสามารถในการทำความสะอาดพื้นไม้แข็งได้ดี จุ่มน้ำยาทำความสะอาด โดยผสมน้ำ น้ำส้มสายชู และน้ำยาทำความสะอาดที่เป็นสบู่อ่อน ๆ ลงไป จะช่วยให้ทำความสะอาดได้หมดจดขึ้น และให้เน้นในจุดที่มีการเดินเข้าออกบ่อย ๆ แต่หากทำความสะอาดในขั้นตอนเหล่านี้แล้ว พื้นยังดูไม่หมดจดดี ก็ให้เรียกมืออาชีพ ที่มีเครื่องขัดพื้นมาขัด จะได้พื้นที่สะอาดเหมือนใหม่ และเมื่อทำความสะอาดอย่างล้ำลึกแล้ว ต่อไปก็ให้ทำความสะอาดเป็นประจำด้วยการใช้เครื่องดูดฝุ่น และไม้ถูพื้น อย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ การทำความสะอาดชุดใหญ่ ให้ทำทุกเดือน ส่วนการขัดโดยมืออาชีพให้ทำทุกปี

 

blank

3.แก้ไขพื้นที่เสียหายได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษทราย
แก้ไขพื้นที่เสียหายได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษทราย ขัดหากลองทำความสะอาดแล้ว ยังดูไม่ดี พื้นยังขาดความเงางาม สามารถทำให้ดูดีขึ้นได้ โดยไม่ต้องใช้กระดาษทรายขัด แต่ให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์พวกชุดปรับเปลี่ยนพื้นไม้ และพื้นลามิเนต ผลิตภัณฑ์พวกนี้จะเพิ่มความเงางามให้กับพื้น โดยไม่ทำให้พื้นเปลี่ยนสี อีกทั้งยังแห้งเร็วภายใน 24 ชั่วโมงอีกด้วย

4.กรณีที่มีความเสียหายมากอาจแก้ไขอย่างเร็วด้วยวิธีข้างต้นไม่ได้
กรณีที่พื้นไม้แห้ง และแตก หรือมีช่องโหว่ ก็ต้องการการซ่อมแซมที่ยากขึ้น เช่นจะต้องมีการขัด การปะ การขจัดคราบ และการเคลือบ ซึ่งในกรณีนี้ต้องใช้เวลาและขั้นตอนที่มากขึ้น และควรปรึกษามืออาชีพ

blank

5.การอุดช่องโหว่ตามพื้นไม้
ในการที่เราจะซ่อมพื้นไม้ที่แตก มีช่องโหว่นั้น ต้องดูช่วงเวลาที่เหมาะสมด้วย ไม่เช่นนั้นงานที่ซ่อมไปอาจจะอยู่ไม่ทน ใช้ได้ไม่นานก็แตกเสียหายอีก เพราะไม้นั้น มีการยืดและหดตัว โดยจะหดตัวในช่วงอากาศหนาว และขยายตัว ในช่วงอากาศร้อน ดังนั้น ช่วงที่เหมาะกับการอุดช่องพื้นไม้ จึงเป็นช่วงที่อากาศมีความร้อนชื้น อย่างในช่วงฤดูร้อน

6.พื้นไม้สีเข้มจะเห็นฝุ่นผงชัดเจนกว่าสีอ่อน
เรามักจะคิดว่า สีพื้นไม้ที่เข้มอย่างสีมะฮอกกานี หรือสีโอ๊คนั้น เปื้อนยาก แต่จริง ๆ แล้ว สีเข้ม ทำให้เราสังเกตเห็นความสกปรกได้ง่ายกว่าสีอ่อน จึงทำให้เวลาที่ทำความสะอาดนั้นเราจะเห็นคราบฝุ่น หรือคราบอื่นได้อย่างชัดเจน

7.ความแตกต่างระหว่างพื้นด้านกับพื้นมันเงา
แน่นอนว่าพื้นที่มีความมันเงานั้นดูดี แต่ปัจจุบันนี้พื้นด้านได้รับความนิยม โดยเฉพาะกับบ้านที่มีเด็กเล็ก เพราะไม่ลื่น ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นในการเคลือบเงาพื้นไม้ ควรต้องทราบข้อเท็จจริงดังนี้ พื้นขัดเงา ลงแว๊ก นอกจากจะลื่นง่ายแล้ว ยังไม่ทนทาน การเคลือบเงาด้วยผลิตภัณฑ์สูตรน้ำ จึงได้รับความนิยมมากขึ้นกว่าสูตรน้ำมันในปัจจุบันนี้

 

เลือกซื้อสินค้าวัสดุก่อสร้างกับเรา Beelieve Sourcing มาร์เก็ตเพลสวัสดุก่อสร้างรายแรกของไทย เรามีทั้งสินค้าวัสดุก่อสร้าง และ บริการต่างๆ รวมถึงรถขนส่ง หรือ ช่างผู้รับเหมา ทั่วประเทศไทย  facebook: beelievesourcing line: @beelievesourcing youtube: beelieveus beelievesourcing เราสร้างตลาดสินค้าออนไลน์และ บริการครบจบในที่เดียว

BS Shop Director
We will be happy to hear your thoughts

Leave a reply

บีลีฟซอร์สซิ่ง ตลาดกลางค้าวัสดุก่อสร้าง บ้าน อาคาร
Logo